10 อันดับ เมืองสุดแสนประหยัดสำหรับนักศึกษา 2016

ราคาบิ๊กแมค : US$4.49 ประมาณ 162 บาท
ราคา iPad : US$556.80 ประมาณ 20,140 บาท
เมืองใหญ่อันดับ 4 ของประเทศฝรั่งเศส เมืองที่ถูกขนานนามว่า “เมืองสีชมพู (La ville rose)” เพราะเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมในยุคเรเนซองส์ที่ก่อด้วยอิฐสีส้มอมชมพู นอกจากจะไปศึกษาต่อแล้ว ยังเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมอันทรงคุณค่า ให้ได้เที่ยวชมรอบ ๆ เมืองอีกด้วย ที่สำคัญค่าเล่าเรียนแสนถูกเพียง $200 ต่อปี เท่านั้น
ราคาบิ๊กแมค : US$4.00 ประมาณ 145 บาท
ราคา iPad : US$545.64 ประมาณ 19,700 บาท
"เมืองบาเลนเซีย" หรือ "เมืองวาเลนเซีย" เป็นเมืองหลวงของแคว้นบาเลนเซีย เมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศสเปน หากมองในแง่ของการศึกษาเรามักจะนึกถึงเมืองมาดริด และบาร์เซโลน่า ที่มักจะติดอันดับโลกอยู่บ่อยครั้ง แต่ในปีนี้ต้องยกให้ “วาเลนเซีย” เมืองสุดแสนประหยัดอีกหนึ่งเมือง
ราคาบิ๊กแมค : US$3.11 ประมาณ 113 บาท
ราคา iPad : US$490.19 ประมาณ 17,700 บาท
เมืองหลวงของประเทศเม็กซิโก และเมืองที่มีพื้นที่ใหญ่ที่สุดในโลก เหมาะสำหรับนักศึกษาชาวต่างชาติที่มีงบจำกัด แต่ชอบอยู่ในเมืองใหญ่ แม้เม็กซิโกจะมีค่าเล่าเรียนสูงที่สุดจากทั้ง 10 เมืองในอันดับ Top 10 แต่เมื่อเทียบกับค่าครองชีพในเมืองใหญ่อื่น ๆ แล้วถือว่าถูกมาก
ราคาบิ๊กแมค : US$3.71 ประมาณ 134 บาท
ราคา iPad : US$545.64 ประมาณ 19,700 บาท
ไม่ธรรมดาสำหรับ “กรุงเวียนนา” เมืองหลวงจากประเทศออสเตรีย ที่นอกจากจะเป็นเมืองสุดแสนประหยัดสำหรับนักศึกษาแล้ว ยังติดอยู่ในอันดับที่ 2 เมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลกอีกด้วย โดยมีค่าเล่าเรียนตกอยู่ที่ประมาณ US$500 ต่อปี สำหรับนักศึกษาทั่วไป และฟรีสำหรับนักศึกษาจากกลุ่มประเทศ EU
ราคาบิ๊กแมค : US$3.93 ประมาณ 142 บาท
ราคา iPad : US$545.64 ประมาณ 19,700 บาท
ประเทศเยอรมนี จัดเป็นประเทศอันดับที่ 3 ที่คนนิยมไปเรียนต่อมากที่สุดในโลก รองจากสหรัฐอเมริกา และอังกฤษ "มิวนิค" เป็นอีกหนึ่งเมืองฮอต ที่มีค่าเล่าเรียนเป็นศูนย์ หรือเรียกง่าย ๆ ว่าเรียนฟรีเช่นเดียวกับกรุงเบอร์ลิน และได้รับความนิยมจากนักศึกษาทั่วโลก นอกจากเรื่องค่าใช้จ่ายแล้ว ในปีนี้มิวนิค ยังได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่ปลอดภัยที่สุดในอันดับที่ 8 ของโลกอีกด้วย
ราคาบิ๊กแมค : US$2.55 ประมาณ 92 บาท
ราคา iPad : US$486.55 ประมาณ 17,600 บาท
เรียกได้ว่าฮอตมากในปีนี้สำหรับประเทศไต้หวัน ที่มีเมืองติดอันดับมาถึง 2 เมืองด้วยกัน ใครที่คิดจะไปเรียนต่อต่างประเทศ ไทเปก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือก ที่นอกจากจะมีค่าเล่าเรียนและค่าครองชีพถูกแล้ว ยังมีมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงและติดอยู่ในอันดับโลกหลายแห่งด้วยกัน เช่น มหาวิทยาลัยแห่งชาติไต้หวัน (National Taiwan University) อยู่ในอันดับที่ 70 ของโลก
ราคาบิ๊กแมค : US$3.93 ประมาณ 142 บาท
ราคา iPad : US$545.64 ประมาณ 19,700 บาท
กลับมาที่ประเทศเยอรมนีอีกครั้ง กับอันดับที่ 4 เมืองสุดแสนประหยัดสำหรับนักศึกษาในปี 2016 สำหรับ“กรุงเบอร์ลิน” และยังเป็นเมืองที่ดีที่สุดสำหรับนักศึกษาในอันดับที่ 9 ของโลก อีกด้วย นั่นอาจเป็นเพราะมหาวิทยาลัยของรัฐบาลส่วนใหญ่ในประเทศเยอรมนีจะไม่เก็บค่าเล่าเรียน ทั้งนักศึกษาในท้องถิ่น และนักศึกษาชาวต่างชาติ (ยกเว้นหลักสูตรปริญญาโทบางส่วน) นั่นเอง
ราคาบิ๊กแมค : US$2.55 ประมาณ 92 บาท
ราคา iPad : US$486.55 ประมาณ 17,600 บาท
“นครซินจู๋” เมืองใหม่จากไต้หวันที่หลายคนอาจไม่คุ้นหูเท่ากับ “เมืองไทเป” แต่บอกได้เลยว่า นครแห่งนี้เพียบพร้อมไปด้วยเทคโนโลยีและความทันสมัย เหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักศึกษาที่คิดจะไปเรียนต่อต่างประเทศในราคาแสนประหยัด นอกจากนี้ยังการันตีด้วยอันดับที่ 55 เมืองที่ดีที่สุดสำหรับนักศึกษา ประจำปี 2016 อีกด้วย
ราคาบิ๊กแมค : US$2.54 ประมาณ 92 บาท
ราคา iPad : US$554.26 ประมาณ 20,000 บาท
เมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศโปแลนด์ และยังติดอันดับเป็นเมืองสุดแสนประหยัดสำหรับนักศึกษา ในปี 2016 นี้อีกด้วย โดยวอร์ซอ ถือเป็นเมืองใหม่สุด ๆ ที่ติดอันดับ Best Student Cities 2016 สูงสุดอยู่ในอันดับที่ 63 นอกจากจะเป็นเมืองศูนย์กลางด้านอุตสาหกรรมหนักของประเทศแล้ว ยังเป็นเมืองศูนย์กลางด้านการศึกษาอีกด้วย ค่าเรียนแสนประหยัดสำหรับนักศึกษาต่างชาติ และฟรีสำหรับนักศึกษาโปแลนด์
ราคาบิ๊กแมค : US$2.01 ประมาณ 73 บาท
ราคา iPad : US$398.26 ประมาณ 14,400 บาท
“กัวลาลัมเปอร์” มหานครแห่งสีสันและวัฒนธรรมอันหลากหลาย เมืองหลวงของประเทศมาเลเซีย ที่รู้จักกันเป็นอย่างดี สามารถครองอันดับ 1 เมืองสุดแสนประหยัดสำหรับนักศึกษา ติดต่อกัน 2 สมัย แชมป์เก่าจากปี 2015 และในปีนี้ กัวลาลัมเปอร์ ยังติดอยู่ในอันดับที่ 53 เมืองที่ดีที่สุดสำหรับนักศึกษา หรือ QS Best Student Cities 2016 อีกด้วย
แสดงความคิดเห็น